ประกันที่ดีต้องคุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกันที่ดีต้องคุ้มครองอะไรบ้าง?

ว่ากันด้วยเรื่องของ “การทำประกัน” นั้น…มีอะไรต้องพิจารณาหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเบี้ยประกัน การคุ้มครอง การดูแลรักษาต่างๆ ที่เราต้องใช้ในการตัดสินใจในการทำจะทำกรมธรรม์เหล่านี่ ซึ่งเราเชื่อกันว่า…หลายๆ ท่านก็คงจะขาดความรู้ในด้านเหล่านี้กันอย่างแน่นอน วันนี้จะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ประกันที่ดีต้องคุ้มครองอะไรบ้าง?” กันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ

องค์ประกอบของประกัน ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

การประกันภัย คือ การบริหารความเสี่ยงภัยวิธีหนึ่ง ซึ่งจะโอนความเสี่ยงภัยของผู้เอาประกันภัยไปสู่บริษัทประกันภัย เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น บริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามที่ได้รับความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องเสียเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันภัยตามที่ได้ตกลงกันไว้

การประกัน (Insurance) คือการบริหารจัดการความเสี่ยงรูปแบบหนึ่ง โดยมีองค์ประกอบ 3 ส่วน อันได้แก่…

·ผู้รับประกัน (Insurer) เป็นบริษัทประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีหน้าที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยจากภัยที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไขในสัญญา ผู้เอาประกันภัย (Insured)

·ผู้เอาประกัน (Insured) หรือผู้ถือกรมธรรม์ (Policy Holder) ผู้เอาประกันภัย (Insured) หรือผู้ถือกรมธรรม์ (Policy Holder) เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้ มีหน้าที่ส่งเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัยจนครบกำหนดตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา

·ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary) คือ บุคคลที่ผู้เอาประกันระบุไว้ว่าจะมอบประโยชน์ให้หากผู้เอาประกันเสียชีวิต โดยสามารถเลือกผู้รับประโยชน์ได้หลายคน และกำหนดสัดส่วนที่ได้รับในอัตราส่วนที่ต่างกันก็ได้ ส่วนมากมักเป็นบุตร คู่สมรส หรือพ่อแม่

การประกันจักต้องผ่านกระบวนการพิจารณารับประกัน (Underwriting) เพื่อผู้รับประกันจักประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าของ บุคคล, กลุ่มบุคคล หรือ ทรัพย์สิน นั้นๆ พร้อมกำหนด รายละเอียดความคุ้มครอง และค่าเบี้ยประกัน ผู้รับประกันอาจรับประกัน โดยแบ่งความเสี่ยงมาส่วนหนึ่ง หรือ ปฏิเสธ หากความเสี่ยงนั้นไม่อาจรับได้ หรือ ผู้รับประกันอาจรับประกันโดยเพิ่มอัตราเบี้ยพิเศษ เพื่อให้สามารถครอบคลุมความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การทำประกัน เป็นสัญญาต่างตอบแทนที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยคู่สัญญาต่างมีหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบต่อกัน ผู้รับประกันจักต้องคุ้มครองผู้เอาประกันตามรายละเอียดในสัญญาเมื่อมีความสูญเสีย เสียหายเกิดขึ้น โดยชดเชยตามรายละเอียดความคุ้มครอง ผู้เอาประกันก็มีหน้าที่ชำระเบี้ยประกันตามที่ระบุในสัญญาเพื่อให้ความคุ้มครองเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ประกันที่ดีเป็นอย่างไร?

·ตัวแผนประกันจะต้องคุ้มครองในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพ เงินชดเชย สถานรักษาหรือการติดต่อประสานงานที่ทางประกันได้ร่วมทุนหรือร่วมมือไว้

·ค่าเบี้ยประกันสมเหตุสมผล หากค่าเบี้ยประกันกับความคุ้มครองไม่สอดคล้องกัน จะทำให้เราขาดทุนหรือจะรู้สึกไม่คุ้มในการที่จะทำประกัน ดังนั้น จะต้องเปรียบเทียบและเลือกบริษัทประกันที่เหมาะสมและดีที่สุดครับ

·เลือกประกันที่มีตัวแทนที่ดี มีความชัดเจน มีพลัง ตัดสินใจหรือแนะนำลูกประกันได้อย่างดีเยี่ยม เพียงเท่านี้จะทำให้เราอุ่นใจและฝากชีวิตได้มากขึ้นนั้นเองครับ

ประโยชน์ของการทำประกันมีอะไรบ้าง?

·ให้ความคุ้มครองทำให้เกิดความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย
·ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เป็นหลักประกันต่อบุคคลและครอบครัวของผู้เอาประกันภัย เช่น กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ทายาทหรือผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินชดเชยจำนวนหนึ่ง ทำให้ไม่ต้องเป็นภาระแก่ผู้อื่น
·ช่วยคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย ผู้เอาประกันภัยจะได้รับชดใช้ค่าเสียหายนั้นจากผู้รับประกันภัย
·ช่วยปลูกฝังให้เกิดนิสัยการประหยัดและการออม เนื่องจากต้องเก็บเงินจำนวนหนึ่งไว้ชำระค่าเบี้ยประกันภัยให้ได้ตามจำนวนที่ตกลงไว้กับผู้รับประกันภัยและต้องชำระให้ทันภายในกำหนดเวลา การออมทำให้มีเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉินและยามชรา
·สามารถนำค่าเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้

และนี้ก็คือ “ประกันที่ดีต้องคุ้มครองอะไรบ้าง?” ที่เราได้รวบรวมมาฝากท่านผู้อ่านเพื่อเป็นความรู้ที่ดีและมีประโยชน์ หวังว่าจะชอบกันนะครับ